How - To: "แต่งหน้าใสๆ Everyday Look สไตล์พลอย" | Ploy Thatsani



สวัสดีค่าทุกคน

ช่วงนี้พลอยค่อนข้างจะยุ่งกับงานหนักมากกก เลยทำให้ห่างหายการเขียนกระทู้ไปซะน๊านนน นาน!! วันนี้เพิ่งจะมีคิวว่าง...เลยอยากจะทำ How to Makeup ให้เพื่อนๆได้อ่านกันมั่งจ่ะ ซึ่งลุคที่พลอยจะมาแต่งนั้นก็ไม่ได้ยากอะไรเน้อ เพราะเป็น Everyday Look ในแบบสไตล์ของพลอยนั่นเองค่ะ โทนการแต่งก็จะเน้นไปทางสุภาพใสๆค่ะ ซึ่งในส่วนไอเท็มที่ใช้กับขั้นตอนการแต่งนั้นจะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลยค่า ^^!!!


ลองเปรียบเทียบ Before – After ดู ก็แทบจะไม่ต่างอะไรมากเลยเนอะ >//< ก็แต่งแบบใสๆไม่เยอะจริง จริ๊ง!!!
**หมายเหตุ**

คิ้วเป๊ะเพราะไม่ได้เขียนไว้ก่อนนะ แต่พลอยสักคิ้วมาแล้วค่า เพราะฉะนั้นจะไม่มีขั้นตอนการเขียนคิ้วนะทุกคน


แท่น แท็น!! และนี่ก็คือไอเท็มที่ใช้แต่ง Everyday Look ทั้งหมดค่ะ
  • NAMI MAKE UP PRO SEOUL GIRLS FULL COVER CONCEALER NATURAL BEIGE
  • L’OREAL PARIS INFALLIBLE 24H FRESH WEAR
  • DE LEAF THANAKA DUO TRANSLUCENT LOOSE POWDER
  • MISTINE WINGS ANGLE SUPER POWDER SPF30 PA+++
  • URBAN DECAY BACKTALK PALETTE
  • IN2IT 2 IN 1 SUPERME MASCARA
  • CARMEX MOISTURIZING LIP BALM SPF15 (POMEGRANATE STICK) & KA MAGIC LIP (STRAWBERRY)
  • NAMI MAKE UP PRO SEOUL GIRLS CREAMY MATTE LIP & CHEEK


มาเริ่มกันเลยที่ Step 1 ค่ะ
NAMI MAKE UP PRO SEOUL GIRLS FULL COVER CONCEALER NATURAL BEIGE (Price: 49-.)
ซึ่งก่อนจะเริ่มขั้นตอนนี้พลอยได้ทำการทาสกินแคร์และครีมกันแดดที่ใช้ไปแล้วเน้อ โดยปกติพลอยไม่ได้ใช้ไพร์เมอร์อยู่แล้ว TT ก็จะมาเริ่มที่การลงคอนซีลเลอร์เลยล่ะกันนะจ๊ะ ซึ่งเจ้าคอนซีลเลอร์ที่ใช้บ่อยสุดในช่วงนี้ก็จะเป็นของแบรนด์ NAMI ค่ะ ตัวนี้ราคาถูกมากและหาซื้อได้ง่ายที่ 7-11 นะเจ้าคะ เห็นถูกๆแบบนี้แต่เนื้อดีเน้อ เกลี่ยง่ายไม่ตกร่องและปกปิดรอยแพนด้าได้ในระดับนึงค่ะ แต่ถ้ามีรอยสิวเยอะๆจะปิดไม่ค่อยมิดนะ เพราะสีค่อนข้างสว่างมากกกก


ปาดใต้ตาปุ๊บต้องรีบเกลี่ยเลยค่ะ เพราะเนื้อแห้งไวเว่อร์!! ซึ่งพลอยจะใช้พัฟฟองน้ำรูปไข่แบบแห้งแท็บๆให้ทั่วใต้ตา หลังเกลี่ยก็จะเห็นได้ชัดเลยว่าใต้ตาฝั่งซ้ายนั้นดูสว่างขึ้นทันที ส่วนฝั่งขวายังไม่ได้ทาเน้อ อันนี้พลอยเปรียบเทียบให้ดูนะจ๊ะ


Step 2
L’OREAL PARIS INFALLIBLE 24H FRESH WEAR #130 TRUE BEIGE (Price: 499-.)
รองพื้นฝาแดงในตำนานของลอรีอัลค่ะทุกคน ซึ่งตัวนี้เป็นสูตรใหม่เด้อ สีที่พลอยเลือกใช้คือสี 130 TURE BEIGE ซึ่งเป็นโทนผิวขาวเหลืองค่ะ เนื้อจะค่อนข้างเหลวแต่เกลี่ยง่ายและสามารถ Build ขึ้นได้ตามต้องการค่ะ การปกปิดตัวนี้ทำได้ดีในระดับปานกลาง ให้ความเป็นงานผิวและไม่แมตต์ ไม่โกลว์มาก กำลังพอดีๆกับสภาพผิวผสมอย่างพลอยเลยล่ะ แต่เรื่องคุมมันไม่ถึง 24 ชั่วโมงนะทุกคน ประมาณชั่วโมงที่ 4-5 ก็เริ่มมีความวาวเกิดขึ้นละ แต่ๆๆๆไม่ได้ดูเมือกเยิ้มนะ จะแลดูเป็นงานผิวแบบดิ้วอี้เลยก็ว่าได้


พอทารองพื้นลงบนผิวแล้วจะได้เป็นงานผิวสวยๆ ไม่โป๊ะค่ะ แล้วตัวนี้ดีตรงที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขนด้วยนะ ทาแล้วรู้สึกสบายผิว เหงื่อออกเยอะก็ไม่ไหลเป็นคราบและไม่ดรอปหมองระหว่างวันด้วยจ้า


Step 3
DE LEAF THANAKA DUO TRANSLUCENT LOOSE POWDER (Price: 270-.)
มาถึงขั้นตอนการลงแป้งฝุ่นเพื่อเซ็ทเมคอัพให้ติดทนกันมั่งจ้า เนื่องจากพลอยเป็นคนผิวผสมเนอะ จึงจะมีปัญหาหน้ามันง่ายเป็นพิเศษช่วงทีโซน เพราะฉะนั้นแป้งฝุ่นที่พลอยเลือกใช้จะต้องมีสรรพคุณที่ช่วยคุมมันและช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วย ดังนั้นแป้งฝุ่นโปร่งแสงของเดอลีฟทานาคานี่ล่ะค่ะตอบโจทย์ที่สุดแล้วจ้า


ด้วยความที่แป้งตัวนี้เป็นแป้ง 2 เฉดสีก็คือ เฉดสีเหลืองจะช่วยควบคุมความมัน และเฉดสีชมพูจะช่วยให้หน้าดูไบร์ทมีมิติขึ้นเพราะมีชิมเมอร์ พลอยจึงตบแป้งทั้งสองเฉดสีเลยจ้า...พอตบปุ๊บหน้าจะดูสว่างผ่องขึ้นทันที แต่ว่าพลอยมีรอยสิวค่อนข้างเยอะ ดังนั้นถ้าใช้แป้งฝุ่นเดี่ยวๆไม่เวิร์คแน่นอนจ่ะ เพราะไม่ได้ช่วยปกปิดแต่อย่างใดจึงต้องมีการลงแป้งพัฟเพิ่มอีกนิดค่า


Step 4
MISTINE WINGS ANGLE SUPER POWDER SPF30 PA+++ (Price: 229.-)
สาวกมิสทีนต้องไม่พลาดค่า!! ตัวนี้เป็นแป้งออกใหม่ของทางแบรนด์เค้าเลย ด้วยความที่ตลับแป้งมีสีพาสเทลและมีความน่ารักน่าใช้มากกกก พลอยเลยไม่พลาดที่จะสอยมาใช้และเก็บในกรุเจ้าค่ะ สำหรับแป้งมีสทีน แป้งวิงส์แองเจิ้ลตัวนี้เขามีด้วยกัน 2 สูตรค่า ก็คือ สูตรหน้าไบร์ทและสูตรคุมมันค่ะ และพลอยก็ซื้อมาใช้ทั้งสองสูตรเลย


จากที่พลอยได้ใช้มาสักพักละก็รู้สึกชอบเลยแหละ นับว่าเป็นแป้งถูกและดีอีกตัวเลยเพราะว่าทั้งสองสูตรตอบโจทย์ Lifestyle ได้หมดเลย เพราะถ้าวันไหนอยากได้ลุคแมตซ์คุมมันก็ใช้แป้งคุมมันหรือ Oil Control ตลับฟ้า หรือ วันไหนอยากได้ลุคงานผิว ดูวิ๊งค์ๆก็ใช้แป้งหน้าไบร์ทหรือ Whitening ตลับชมพูเลยจ้า ใช้ดี Win win! ทั้งคู่ ทาแล้วไม่อุดตันรูขุมขน ไม่หนักหน้าแม้แต่น้อยให้ฟิลเบาสบายผิว และปกปิดดีในระดับหนึ่งค่ะ และในระหว่างวันก็ไม่ดรอปหมอง ยังช่วยปกป้องผิวจากอันตรายของรังสี UV ด้วยค่า SPF30 PA+++ ด้วยนะจ๊ะ ^0^  อ่อ แล้วเนื้อแป้งวิงส์เค้ามี 3 เฉดสีให้เลือกค่ะ คือ S1 ผิวขาว ,S2 ผิวกลาง และ S3 ผิวสองสี ส่วนพลอยเลือกใช้สี S2 ผิวกลางค่ะ


ลองปาดเนื้อแป้งทั้ง 2 สูตรให้ดูจ่ะ
  • สูตร Whitening จะเป็นเนื้อแป้งผสมรองพื้นที่มีประกายชิมเมอร์เล็กๆ จึงให้ลุคงานผิวแบบโกลว์ๆ
  • สูตร Oil Control จะเป็นเนื้อแป้งผสมรองพื้นแบบแมตต์ จึงให้ลุคแมตต์เป๊ะ สาวผิวมันสูตรนี้ตอบโจทย์เลยค่ะ


แต่สูตรที่พลอยเลือกใช้ใน How To ครั้งนี้คือ สูตรหน้าไบร์ทค่ะ เพราะช่วยให้ผิวหน้าดูเป็นงานผิว ดูมีมิติ ไบร์ทกระจ่างใส ทาแล้วผิวสวยฉ่ำโกลว์ที่สุดค่ะ ยิ่งเวลาโดนแสงแดดนะ...หน้าจะดูวิ๊งค์ๆๆมีออร่าแลดูเป็นสาวผิวสุขภาพดีด้วยนะเออ


Step 5
URBAN DECAY BACKTALK PALETTE (Price: 1,950.-)
งานผิวจบไปแล้ว ก็มาต่อกันด้วยงานไฮไลท์จมูก อายแชโดว์ และปัดแก้มกันมั่งค่ะ ซึ่งพลอยใช้พาเลทของ Urban Decay Backtalk พาเลทนี้เลยค่ะ จบครบในพาเลทเดียว อิอิ สีของพาเลทนี้จะเน้นไปทางโทนสีชมพูตุ่นๆม่วงๆนะคะ และพิกเม้นท์แน่นมาก จะมีสีอายชาโดว์ทั้งหมด 8 เฉดสีและปัดแก้มทั้งหมด 4 เฉดสีค่ะ จะใช้แต่งลุคไหนก็ได้หมดเลย พาเลทนี้มีขายที่ Eveandboy ทุกสาขาจ้า


งานดั้งพลอยจะใช้เฉดสี WTF ไฮไลท์ตามในรูปเลย และใช้เฉดสี PARTY FOUL ไฮไลท์สันจมูกค่ะ


ส่วนงานเปลือกตา พลอยเลือกใช้อายแชโดว์เฉดสี BARE ลงก่อนอันดับแรกค่ะ โดยเบลนเกลี่ยให้ทั่วเปลือกตาเลย และใช้แปรงทาเฉดสี CURVE ทับอีกรอบบนเปลือกตา จากนั้นใช้เฉดสี BACKTALK ทาบริเวณหางตาดังรูปเลยจ้า


จากนั้นก็ทำการปัดแก้มเลยจ้า ซึ่งพลอยใช้เฉดสี DOUBLE TAKE และ LOW KEY ปัดผสมกันทีเดียวเลย จะได้พวงแก้มที่ดูชมพูตุ่นๆน่ารักเลยล่ะ 


Step 6
IN2IT 2 IN 1 SUPERME MASCARA (Price: 199.-)
อยากขนตาสวยงอนเด้ง ต้องไม่ลืมที่จะปัดมาสคาร่านะจ๊ะ มาสคาร่า IN2IT  ตัวนี้แหละที่เป็นตัวโปรดของพลอยเลย และมาสคาร่าตัวนี้เค้าเป็นสูตรกันน้ำผสมไฟเบอร์ด้วยนะจ๊ะ 


หลังดัดขนตาเสร็จก็ปัดมาสคาร่าไปเลยจ้า ตัวนี้จะมีความแห้งเร็วมากแต่ไม่จับตัวเป็นก้อนเน้อ ขนตาดูเป็นแพสวยม่จับตัวเป็นก้อนจ้า โดนน้ำ โดนเหงื่อแค่ไหนก็ไม่เป็นคราบไหลหลุดค่ะ


Step 7
CARMEX MOISTURIZING LIP BALM SPF15 (POMEGRANATE STICKS) (Price: 135.-)
& KA MAGIC LIP (STRAWBERRY) (Price: 59.-)
สงสัยใช่ไหมล่ะทำไมพลอยถึงใช้ลิปบำรุงถึงสองตัว ก็เพราะว่าพลอยนั้นเป็นคนที่มีริมฝีปากแห้งมากกกก แล้วลอกบ่อยมาก เคยทาเดี่ยวๆแล้วก็อยู่ไม่ถึงวัน แปปๆปากเริ่มลอกแล้วจ้า พลอยก็เลยใช้ลิปของ CARMAX และ KA ทารวมกันเลย เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นขั้นสุดและให้ริมฝีปากดูชมพูน่าจุ๊บจ้า สองตัวนี้พลอยพกติดกระเป๋าไว้ตลอดห่างไม่ได้เลยจ้า


ซึ่งลิปของ CARMAX เนี้ยพอทาปุ๊บจะรู้สึกเย็นๆและชุ่มชื้นขึ้นทันที แถมมีค่ากันแดด SPF15 ที่ช่วยกันแดดไม่ให้ริมฝีปากคล้ำหมองด้วยน๊า และลิปของ KA ก็ช่วยให้ความชุ่มชื้นเหมือนกันจ่ะ แต่ยังช่วยทำให้สีปากดูชมพูระเรื่อๆเป็นธรรมชาติน่าจุ๊บอีก งือออ ใครปากแห้งมากๆแบบพลอยลองใช้วิธีแบบพลอยก็ได้นะคะ ช่วยได้มากกก ปากชุ่มชื้นทั้งวัน ไม่ลอกแห้งน่ารำคาญจ้า


Step 8
NAMI MAKE UP PRO SEOUL GIRLS CREAMY MATTE LIP & CHEEK #04 Honey Peach (Price: 49.-)
มอบความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปากกันไปแล้ว ก็ต้องตบท้ายด้วยการเพิ่มสีสันให้กับริมฝีปากกันด้วยจ้า จะได้ดูไม่ป่วยและเพื่อกลบรอยคล้ำ รอยปากดำของพลอยค่า ^^ NAMI  LIP & CHEEK ซองนี้เลยจ้าสวยสุด!! พลอยใช้เบอร์ 04 Honey Peach นะจ๊ะ สีสวยมากกก สีออกชมพูอมส้ม ทาแล้วดูไม่ป่วยนะคะ เนื้อเกลี่ยง่าย พิกเม้นท์แน่นสวยชัดมาก


พอทาแล้วปากจะดูริมฝีปากจะดูแมตต์สวยทันที กลบปากดำได้มิดจริง ส่วนเรื่องกันน้ำ กันเหงื่อก็อยู่ในระดับปานกลางนะ มีหลุดเลือนบ้างเวลาดื่มน้ำหรือกินข้าว แต่ไม่ใช่ปัญหาของพลอยค่า หลุดก็แค่ทาทับซ้ำอีกรอบไงคะ 5555 ตัวนี้มีขายใน 7-11 ค่า ใครชอบลิปแมตต์ราคาสบายกระเป๋าก็ไปสอยมาลองได้เลยจ้า


และนี่ก็คือ Step How to และ Makeup ทั้งหมดที่พลอยแต่งในทุกๆวันค่า แต่งไปทำงาน ไปเดินห้างก็ลุคนี้เลยค่ะ และอีกอย่างพลอยไม่ค่อยชอบเขียนอายไลเนอร์ค่ะ เลยไม่มี Step นี้นะจ๊ะ หวังว่าเพื่อนๆจะชอบกระทู้นี้ของพลอยนะคะ หากผิดพลาดตรงไหนหรือเขียนแล้วดูงงๆ ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ เบลองานหนักมาก T^T สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อนเด้อจ้า และพบกันใหม่กระทู้หน้านะคะ ^^ Bye bye!!

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ใช้ดีบอกต่อ!! 5 ผลิตภัณฑ์พอกผิวหน้า ฟื้นฟูผิวใส เผยผิวดูเรียบเนียน

แนะนำเวชสำอางลดฝ้า หน้าใส น้องใหม่แบรนด์คนไทย "Per Skincare"

แนะนำเซรั่มกู้ผิวใส ลดปัญหาจุด แบรนด์คนไทย "enabler white activate serum"